top of page
Writer's pictureAdmin

มือใหม่ต้องรู้!! รู้จักฟิล์มกรองแสง ก่อนติดฟิล์มรถยนต์

Updated: Apr 5

รู้จักฟิล์มกรองแสงก่อนติดฟิล์มรถยนต์ มือใหม่ต้องรู้!

หลังจากออกรถหรือช่วงพิจารณาออกรถ การติดฟิล์มกรองแสงก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญเพราะอากาศบ้านเราร้อนมากๆ ไม่สามารถขับรถโดยที่ไม่ติดฟิล์มได้เลย สำหรับมือใหม่เลือกฟิล์มกรองแสง จะต้องรู้

อะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ


ฟิล์มกรองแสงคืออะไร?


ฟิล์มกรองแสงคือวัสดุที่ผลิตจากพลาสติกโพลีเอสเตอร์ที่มีคุณสมบัติเหนียว ใส เรียบ

ยืดหยุ่นน้อย ไม่ดูดซับความชื้น มีความทนทานต่อสภาพอากาศทั้งสูงและต่ำได้เป็นอย่างดี

ในเนื้อฟิล์มกรองแสง จะมีวัสดุที่ใช้เพื่อป้องกันความร้อนและรังสียูวี โดยใช้เทคโนโลยี ในการผลิต

เป็นชิ้น ๆ ผสานด้วยกาวพิเศษเพื่อการยึดเกาะได้อย่างเหนียวแน่น มีคุณสมบัติในการลดความร้อน

ลดรังสียูวี รังสีอินฟราเรด ซึ่งจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดและรังสีต่าง ๆที่จะเข้ามาภายในห้องโดยสาร ส่วนจะสามารถลดหรือป้องกันได้มากน้อยขึ้นอยู่กับวัสดุและคุณภาพของส่วนประกอบที่นำมาผลิต ปัจจุบันฟิล์มกรองแสงรถยนต์มีการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ เข้ามาใช้อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความแตกต่างในด้านการตลาด และสามารถวางจำหน่ายได้ในราคาสูงกว่าปกติ แต่ถึงกระนั้น

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยังคงแบ่งได้เป็น 3 แบบหลักๆ ประกอบด้วย


1. ฟิล์มดำ

ฟิล์มดำเป็นฟิล์มที่มีส่วนผสมของปรอทน้อย บางรุ่นอาจไม่มีส่วนผสมของปรอทเลย และบางรุ่นอาจใช้ส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปแทนเพื่อกันความร้อน เช่น เซรามิค อย่างที่นิยมอยู่ในตอนนี้ ฟิล์มเซรามิกมีสีเข้ม ดำ เมื่อมองจากภายนอก แต่สว่างใสเมื่อมองจากภายใน ฟิล์มดำมีจุดเด่นอยู่ที่ความมืดเมื่อมองจากภายนอก

สร้างความเป็นส่วนตัวให้ กับผู้โดยสารภายใน และยังช่วยให้รถดูสวยงามขึ้นด้วย เนื่องจากสีดำจะตัดกับ

สีตัวถังภายนอกโดยเฉพาะรถสีขาว หรือสีสว่างอื่นๆ หรือแม้กระทั่งรถสีเข้ม ฟิล์มดำกันความร้อนได้น้อยกว่าฟิล์มปรอท เมื่อเทียบกับระดับความเข้มเท่ากัน หากต้องการให้กันความร้อนมากขึ้น ก็ต้องติดฟิล์มที่เข้มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ลดทัศนวิสัยยามค่ำคืน ทำให้มองเห็นทางได้ลำบาก


2. ฟิล์มปรอท

ฟิล์มปรอทจะถูกเคลือบผิวด้านหนึ่งด้วยโลหะ และอาจมีการใส่สีสรรต่างๆ มีความแวววาวมากกว่าฟิล์มดำ

ทำให้สะท้อนความร้อนได้ดีกว่าฟิล์มดำ แต่ก็มีแสงสะท้อนภายในห้องโดยสารมากกว่าเช่นกัน

ในเวลากลางวันอาจมองเห็นแสงสะท้อนของแผงคอนโซลบนกระจก ทำให้มองเห็นภายนอกได้ไม่ชัดเจน

และยังอาจสะท้อนแสงแดดเข้าตาผู้ร่วมทางได้อีกด้วย นอกจากนี้ ฟิล์มปรอทบางรุ่นยังอาจปิดกั้นสัญญาณจีพีเอส หรือบัตรอีซี่พาสได้ ก่อนติดควรถามช่างให้แน่ใจว่าฟิล์มรุ่นที่ต้องการนั้น

สามารถใช้งานกับจีพีเอสและอีซี่พาสได้โดยไม่มีปัญหา


3. ฟิล์มใส

ฟิล์มใสคือฟิล์มที่ผ่านกระบวนการเคลือบโลหะแบบพิเศษ ทำให้มีประสิทธิภาพการกันความร้อนได้เทียบเท่ากับฟิล์มชนิดอื่นๆ แต่ยังคงความใสไว้ บางตัวสามารถกันร้อนได้ดีแต่ไม่สามารถช่วยในเรื่องแสงส่องผ่านเวลาขับรถจึงอาจจะไม่สบายตาเท่าฟิล์มดำหรือฟิล์มปรอท ฟิล์มใสมีตัวเลือกเพียงบางยี่ห้อเท่านั้นและมีราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง อีกทั้งยังต้องระวังเรื่องการปิดกั้นสัญญาณจีพีเอสและอีซี่พาสด้วย

เนื่องจากใช้กระบวนการเคลือบสารโลหะเหมือนกับฟิล์มปรอท




สเปคและการอ่านค่าของฟิล์ม

ค่าต่างๆที่แสดงในโบรชัวร์หรือเอกสารประกอบการขายของฟิล์มได้แก่


1. ค่าแสงส่องผ่าน (Visible Light Trasmittance) คือ ค่าแสงสว่างที่สามารถผ่านเข้ามาในกระจกได้ ค่า VLT สูง = สามารถส่องผ่านได้มาก = ทำให้ห้องโดยสารสว่าง


2. การสะท้อนของแสง (Visible Light Reflectance) คือ ค่าแสงสะท้อนที่สะท้อนแสงไปฝั่งตรงข้ามค่า VLR สูง = มีปริมาณปรอทมาก = แสงสะท้อนได้มาก = สามารถลดความร้อนดี


3. การป้องกันความร้อน (Infrared Light Rejection) คือ ค่าการป้องกันรังสีอินฟาเรด (รังสีความร้อน)ค่า IR สูง = สามารถลดความร้อนดี


4. การลดรังสียูวี (UV Rejection) คือ ค่าการป้องกันรังสียูวี ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ดวงตา

โดยทั่วไปฟิล์มทุกชนิดจะสามารถป้องกันรังสีได้ 99%


5. การลดความร้อนรวม (Total Solar Energy Rejection หรือ TSER) คือ ค่าป้องกันความร้อนรวมของแสงสว่าง รังสีUV รังสีอินฟาเรด ยิ่งมีค่าลดความร้อนรวมมาก ยิ่งป้องกันความร้อนได้ดี


ความเข้มของฟิล์มกรองแสง

ความเข้มของฟิล์มกรองแสงจะขึ้นอยู่กับค่าแสงสว่างส่องผ่าน

(Visible light transmission) หรือ VLT ยิ่งแสงสว่างส่องผ่านน้อย

จะทำให้ฟิล์มติดรถยนต์มีสีเข้มมาก แบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

- ฟิล์มติดรถยนต์เข้ม 40 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 40-50%

- ฟิล์มติดรถยนต์เข้ม 60 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 20 %

- ฟิล์มติดรถยนต์เข้ม 80 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 5%

ก่อนที่จะเลือกติดฟิล์มความเข้ม 40/60/80 ควรคำนึงถึงปัจจัยเรื่องความสามารถในการกันร้อนก่อน

ยิ่งฟิล์มกรองแสงที่มีค่าแสงสว่างส่องผ่านน้อยก็ยิ่งช่วยกันความร้อนและป้องกันรังสี UV ที่เข้ามาใน

ตัวรถได้มากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับทัศนวิสัยที่อาจจะไม่สว่างชัดเท่ากับฟิล์มกรองแสงที่มีค่า

แสงสว่างส่องผ่านมาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและลักษณะการใช้รถของแต่ละท่านด้วย


ทำความรู้จักฟิล์มกรองแสงกันไปแล้วก็คงจะเลือกฟิล์มที่เหมาะสมกับการใช้รถของคุณได้แล้วนะคะ สำหรับท่านที่ยังมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ฟรี ที่…

ทิพย์ ออโต้ ติดฟิล์มโดยช่างมืออาชีพ ในห้องปลอดฝุ่น มีฟิล์มให้เลือกหลายแบรนด์ ในราคาสบายกระเป๋า พร้อมโปรโมชั่นติดฟิล์มรถยนต์จัดเต็มทุกเดือน สาขาพระราม 2 และสาขากาญจนาภิเษก

5,163 views0 comments

Comments


bottom of page