top of page
Writer's pictureAdmin

ข้อควรรู้...กฎหมายแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์


สีรถยนต์มีผลทางกฎหมาย


เรื่องของสีรถยนต์เป็นความชอบแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน บางคนก็ยึดตามความชอบ บางคนก็ถือตามความเชื่อเราจึงเห็นรถยนต์หลายคันที่วิ่งไปมาบนท้องถนนด้วยสีสันที่หลากหลาย และรถแต่ละรุ่นก็มีสีรถมากมายให้ได้เลือกมากมายแตกต่างกันไป


สีรถยนต์มีผลทางกฎหมาย

เพราะสีรถไม่สามารถเปลี่ยนไปมาได้อย่างสีลิปสติก หลายคนจึงต้องคิดแล้วคิดอีกเพื่อที่จะได้สีรถยนต์ที่ตรงใจ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปเกิดอยากจะเปลี่ยนสีรถอีก ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เลย เพราะมีเรื่องของกฎหมายมาเกี่ยวข้อง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเปลี่ยนสีรถยนต์ เรามีเรื่องราวน่าสนใจมาฝากเกี่ยวกับกฎหมายสีรถยนต์ ว่าจะมีรายละเอียดและวิธีการแจ้งเปลี่ยนสีรถอะไรที่น่าสนใจบ้าง


กฎหมายเรื่องการระบุสีรถในคู่มือจดทะเบียน

การเปลี่ยนสีรถยนต์ให้ต่างไปจากที่พ่นมาจากโรงงานมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2549 กับการกำหนดสีและลักษณะของรถ โดยมีการกำหนดสีตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้


1. รายการสีรถที่ถูกตามระเบียบของกรมขนส่งทางบก

- กรณีตัวรถมีสีเดียว ให้กำหนดสีที่เป็นสีหลักโดยไม่ต้องคำนึงถึงความเข้มของสีที่แตกต่างกัน

- กรณีที่ตัวรถมีหลายสี โดยแต่ละสีแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนในบริเวณตัวถังส่วนที่สำคัญของรถ (ฝากระโปรงหน้า-ท้าย หลังคา หรือประตู) ให้กำหนดสีที่เป็นสีหลักเป็นสีของรถไม่เกิน 3 สี เช่น ตัวรถมีสีขาวแต่ส่วนของหลังคามีสีแดงให้กำหนดเป็นสีขาว-แดง หรือตัวรถมี 3 สีคือ สีขาว สีแดง และสีดำ ให้กำหนดเป็นสีขาว-แดง-ดำ ส่วนกรณีตัวรถมีมากกว่า 3 สี หากสามารถกำหนดสีหลักของตัวรถได้ ให้กำหนดสีหลักไว้ 2 สี เช่น สีหลักเป็นสีขาวและสีแดง ในสมุดคู่มือจดทะเบียนรถให้ระบุเป็น สีขาว-แดง-หลาย

- กรณีสีคาดหรือแถบคาดตกแต่งรถ โดยไม่ทำให้สีหลักของรถเปลี่ยนแปลงไป ไม่ต้องกำหนดเป็นสีรถ

หากไม่สามารถกำหนดสีหลักได้ให้ระบุในสมุดคู่มือประจำรถเป็น “หลายสี” ไม่ว่าจะเปลี่ยนสีรถโดยวิธีติดสติกเกอร์ ฟิล์ม หรือคาร์บอนเคฟล่าหรือวัสดุอื่นใดก็ตามจะต้องให้เจ้าหน้าที่กำหนดสีรถให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้างต้น โดยสีอื่นจะต้องมีไม่เกินครึ่งหนึ่งของสีหลักที่จดทะเบียนไว้ เช่น การเปลี่ยนฝากระโปรงหน้าเป็นคาร์บอนเคฟล่าสีดำ ผิดจากตัวถังที่เป็นสีขาว ตามหลักถึอว่าไม่เกินครึ่งหนึ่ง ไม่มีความผิด แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่แต่ละคนได้เช่นกัน


เปลี่ยนสีรถ แจ้งกี่วัน? ต้องทำอย่างไรบ้าง

ทุกครั้งที่นำรถไปเปลี่ยนสีใหม่ให้แตกต่างจากเดิมจากที่เคยจดทะเบียน ไม่ว่าจะด้วยกรรมวิธีใดก็ตาม จำเป็นที่จะต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์กับกรมการขนส่งทางบกทุกครั้งได้ที่สำนักงานขนส่งทั่วไทย ตามข้อกฎหมาย พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 13 รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากมีการเปลี่ยนสีรถ ให้ผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้ เจ้าของรถต้องแจ้งนายทะเบียนภายในเจ็ดวันนับแต่วันเปลี่ยนแปลงสีรถมากกว่า 30% ของพื้นที่ตัวถังรถทั้งหมด


ประกาศจากกรมขนส่งทางบก ว่าด้วยเรื่องของการลงทะเบียนสีรถ

เจ้าของรถต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ที่กรมการขนส่ง แต่หากเป็นการเปลี่ยนสีรถเฉพาะบางจุด ที่ไม่เกิน 30% ในตัวถังไม่จำเป็นต้องแจ้ง ยกเว้นกรณีสีคาดหรือแถบคาดที่ใช้ตกแต่งรถ โดยไม่ทำให้สีหลักของรถเปลี่ยนแปลงไปและไม่ถือว่าเป็นสีรถ ไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถแต่อย่างใด

กรณีที่เปลี่ยนสีรถ ในส่วนฝากระโปรงหน้ารถ หรือกระโปรงท้ายรถให้เป็นอีกสีที่แตกต่างจากสีเดิมที่จดทะเบียนไว้ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสีเกิน 30% ของรถ ต้องแจ้ง กรมการขนส่งทางบก ให้เป็น รถสองสี (ทูโทน) หากไม่แจ้งจะมีความผิดตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 13,มาตรา 60 ต้องโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท


ขั้นตอนการดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

เตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อแจ้งดำเนินการกับกรมการขนส่งทางบก โดยเอกสารหลักฐานที่จำเป็นดังนี้

• คู่มือจดทะเบียนรถ

• สำเนาบัตรประชาชน

• ใบคำร้องแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนรถ

• ใบเสร็จรับเงินค่าจ้างทำสี(กรณีให้ร้านทำสีให้),

• แบบแก้ไขสีด้วยตนเอง (กรณีทำสีด้วยตนเอง)

• รถของคุณที่ทำสีใหม่


เจ้าของรถที่ต้องการแจ้งเปลี่ยนสีรถสามารถขับรถเข้ายื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดประชาสัมพันธ์ “Drive Thru Service” ภายในอาคารตรวจสภาพรถโดยไม่ต้องกรอกแบบคำขอ และเข้ารับการตรวจสภาพจากช่างผู้ตรวจได้ทันที เพื่อไปดำเนินการทางทะเบียนในช่องบริการ “Drive Thru Service” ณ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร โดยมีค่าธรรมเนียม การแจ้งเปลี่ยนสีรถ 50 บาท ค่าดำเนินการตรวจสภาพรถโดยกรมการขนส่งทางบก 50 บาท และค่าคำขอ 5 บาท


เมื่อเปลี่ยนสีรถแล้ว อย่าลืมนำหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

จะเห็นได้ว่าค่าธรรมเนียมในการดำเนินการนั้นถูกแสนถูก อีกทั้งการดำเนินการก็ง่ายแสนง่ายสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นถ้าหากคุณเองต้องการที่จะเปลี่ยนสีตัวรถใหม่ นอกจากจะเลือกสีที่ถูกใจได้แล้ว อย่าลืมดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วยนะคะ

10,907 views1 comment

1 Comment


Zoe Vin
Zoe Vin
Dec 04, 2024

Regular car care ensures your vehicle remains reliable and efficient. Start by scheduling car repair and maintenance services at reputable car repair shops to address potential issues before they escalate. For a smooth ride, don’t overlook suspension repair, power steering, or differential service, which play crucial roles in handling.

Engine health is critical—routine car engine repair services, engine diagnostics, and an engine tune-up service can extend your car’s life. Pair this with fuel filter cleaning and a full-service oil change for optimal performance. Keeping brakes in check with auto brake repair service, brake check - auto service and brake repair, and the best brake repair service ensures safety at every stop.

For tires, prioritize tire rotation and balance, tire repair service, and regular wheel alignment. Don’t…

Like
bottom of page