วิธีดูแลรถทั้งภายในและภายนอกในช่วงฝนตกบ่อย

          ภัยที่มากับฝน มักส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่รถยนต์อย่างมากโดยเฉพาะรถยนต์ที่เราใช้งานทุกวัน เพราะฝนตกมักจะนำสิ่งสกปรก แบคทีเรียมาหาเรา และฝนยังเป็นกรดอ่อนๆที่อาจส่งผลต่อผิวของรถยนต์ได้ ดังนั้นต้องดูแลรถทั้งภายในและภายนอกให้สะอาดอยู่เสมอ วันนี้ทิพย์ ออโต้ จะมาแชร์ไอเดียเทคนิค วิธีการดูแลรถช่วงฝนตกบ่อยๆ ให้ทุกคนได้ไปทำตามกัน

วิธีการดูแลภายในรถยนต์ เพื่อรับมือกับฝนที่ตกทุกวัน และไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโดยไม่รู้ตัว

1. เช็คฝุ่นภายในรถอยู่เสมอ

ต้องเช็คภายในรถอยู่เสมอว่ามีฝุ่นมากน้อยแค่ไหน อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเพราะยิ่งภายในรถมีการสะสมของฝุ่นมากแค่ไหน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และยิ่งเป็นแหละเพาะเชื้อได้ดี  

2. ทำความสะอาดภายในรถด้วยผ้า “ไมโครไฟเบอร์” 

ผ้าไมโครไฟเบอร์จะมีคุณสมบัติพิเศษมากกว่าผ้าอื่นๆทั่วไปคือ เนื้อจะมีความละเอียด กักเก็บฝุ่นและคราบสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี และไม่ทำให้ผิวเกิดรอยหรือทิ้งคราบไว้เมื่อเช็ดแล้ว ซึ่งอาจชุบน้ำหมาดๆหรือน้ำยาทำความสะอาดรถโดยเฉพาะและเช็ดตามชิ้นส่วนต่างๆภายในรถทั้งเบาะ ซุ้มเกียร์ แผงประตู ปุ่มสวิตส์ต่างๆ

3.     ทำความสะอาดพรมรถยนต์บ่อยๆ 

พื้นรถและพรมรถยนต์จะเป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี และรวมถึงน้ำฝนที่เราเหยียบซึ่งเป็นการนำเชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่นจากภายนอกที่มากับน้ำฝนขึ้นมาบนรถนั่นเอง ดังนั้นพรมรถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญมากและต้องใส่ใจเป็นอันดับ 1 ต้องมีการทำความสะอาดพรมและพื้นรถบ่อยๆในช่วงหน้าฝน และต้องเลือกพรมปูพื้นรถยนต์ที่ทำความสะอาดได้ง่าย สะดวก และสามารถป้องกันสิ่งสกปรก ฝุ่น น้ำลงบนพื้นรถยนต์ได้จริง

วิธีการดูแลภายนอกรถยนต์ เพื่อรับมือกับฝนที่ตกทุกวัน ช่วยรักษาสีรถและผิวรถ

1.     ล้างรถ

ซึ่งอาจเป็นวิธีที่ต้องขยันและทำบ่อยในช่วงหน้าฝน หลายคนอาจเข้าใจว่าฝนตกแล้วไม่จำเป็นต้องล้างรถ ที่จริงแล้วฝนนั้นมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ และในน้ำฝนจะรวมทั้งฝุ่น โคลน และอื่นๆ ที่ถึงแม้รถจะแห้งแล้วแต่ยังมีทิ้งคราบไว้ ซึ่งอาจส่งผลต่อสีและผิวรถในอนาคตได้

2.     ห้ามจอดรถใต้ต้นไม้

เหตุเพราะว่า มีความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวและสีรถนั้นเสื่อมสภาพได้ไวมากขึ้น ทั้งยางต้นไม้ มูลนกเมื่อโดนผิวรถแล้วไม่รีบล้างออกให้สะอาดจะมีความเสี่ยงที่จะกัดกร่อนสีผิวรถและทำให้ผิวรถเสียได้ เศษกิ่งไม้ที่ถ้าหากหล่นใส่รถก็อาจสร้างรอยลึกหรือรอยขนแมว และน้ำฝนที่ค้างอยู่บนต้นไม้ทำให้เกิดคราบบนผิวรถนั่นเอง 

3.     เคลือบแก้ว

เป็นการปกป้องดูแลสีรถและผิวรถที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับการดูแลรถในระยะยาวที่สุด การเคลือบแก้วจะช่วยลดปัญหาที่ผู้ขับขี่มักจะเจอในช่วงหน้าฝนได้ดี ทั้งคราบน้ำ ฝุ่นละอองสิ่งสกปรกที่มากับน้ำฝนมาเกาะผิวรถ ซึ่งสามารถทำลายผิวรถได้ ซึ่งเคลือบแก้วรถยนต์จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ แถมยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆอีกมาก เช่น ทำให้ล้างรถง่าย สามารถลบรอย ขีด ข่วน รถ ป้องกันรอยขนแมว ป้องกันมูลนก ยางมะนอย สารเคมีต่างๆที่ทำให้ผิวรถเสีย  

สรุปได้ว่า ช่วงหน้าฝนต้องใส่ใจดูแลรถยนต์ให้มากยิ่งขึ้น ทั้งภายในและภายนอกมีความสำคัญทั้งหมด ทิพย์ ออโต้ ได้แชร์ทริคที่สำคัญให้แล้วถ้าหากอยากดูแลรักษาภายในและภายนอก ทิพย์ ออโต้เรามีบริการดูแลรถยนต์ให้กับทุกท่าน ทั้งติดฟิล์มรถยนต์ พรมรถยนต์ เคลือบแก้ว ผ้าม่านรถยนต์ และบริการอื่นๆ  พร้อมทีมช่างมาตรฐาน รับประกันความพึงพอใจ