3 เรื่องสำคัญ..ต้องรู้ก่อนติดฟิล์มกันรอยรถยนต์

ฟิล์มกันรอยรถยนต์ถือเป็นนวัตกรรมฟิล์มปกป้องสีรถยนต์ คือ สิ่งที่จะปกป้องสีรถของคุณจากรอยขีดข่วน เศษหิน ก้อนกรวด ทราย คราบแมลง และเศษวัตถุอื่นๆ ที่อาจจะกระเด็นมาโดนรถของคุณ และทำให้เกิดความเสียหายกับรถของคุณได้ (ให้ลองนึกถึงฟิล์มกันรอยหน้าจอโทรศัพท์ค่ะ ถ้าเราไม่ติดฟิล์ม ก็เกิดรอยขีดข่วน หรือหน้าจอแตกได้ง่าย)

ปัจจุบันฟิล์มกันรอยรถยนต์เริ่มทำตลาด ทั้งฟิล์มกันรอยภายในรถ และภายนอกรถ แล้วมันคืออะไร อยากจะติดต้องพิจารณาอะไรบ้าง ทิพย์ ออโต้ มีข้อมูลดีๆมาแชร์ให้ทราบค่ะ

1. ฟิล์มกันรอยรถยนต์คืออะไร ทำมาจากอะไร

ฟิล์มกันรอยรถยนต์ คือวัสดุที่มีความใส โปร่งแสง มีความเหนียว ยืดหยุ่นสูง และมีความหนาในระดับหนึ่ง ฟิล์มกันรอยจะช่วยปกป้องรถยนต์จากริ้วรอยต่าง ๆ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน หรือสะเก็ดหินบนท้องถนนที่อาจกระเด็นใส่ไม่ให้เป็นอันตรายกับสีของรถยนต์ได้

ฟิล์มกันรอยที่ขายหลักๆในตลาดมี 2 ประเภทคือ

- TPU คือ เทอร์โมพลาสติก เป็นหนึ่งในสารเคมีกลุ่ม PU นั้นเป็นเนื้อฟิล์มที่มีคุณสมบัติเด่นกว่ากลุ่มโพลิเมอร์อื่นๆ ข้อดีหลักๆของ TPU ก็คือ มีความยืดหยุ่นสูง และความทนทาน สามารถทนต่อการขูดขีด มีความใส ทนทานต่อสารเคมี ซึ่งถูกคิดค้นเพื่อเป็นวัสดุที่ให้ความคงทน ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม และอุปกรณ์การกีฬา เนื่องจากวัสดุมีความเหนียว สามารถทนทานต่อการรองรับแรงกระแทก ซึ่งจะมีข้อเสียอย่างเดียวคือมีต้นทุนที่สูง และราคาแพง

- PVC ย่อมาจากโพลี่ไวนิลคลอไรด์ ข้อดีหลักๆ ของ PVC คือต้นทุนมีราคาถูก ข้อเสียคือ อายุการใช้งานที่สั้น ฟิล์มกรอบ แตกง่าย เวลาใช้ไปสักพัก สีก็จะซีดเหลือง หมอง ไม่สวย และไม่ค่อยยืดหยุ่น ติดค่อนข้างยาก ทำให้เวลาติดงานจะออกมาไม่สวยโดยเฉพาะขอบๆ ติดแล้วฟิล์มอาจจะเด้ง และอ้าง่าย ที่สำคัญคือเมื่อลอกออกจะเกิดเป็นคราบกาว บางทีก็ดึงสีรถออกไปด้วยทำให้รถเป็นรอยด่างเกิดความเสียหายอาจถึงขั้นต้องทำสีใหม่

2. ประเภทของฟิล์มกันรอย

ฟิล์มกันรอยรถยนต์มีหลายรูปแบบ หลายๆ แบรนด์มีการพัฒนาและออกแบบมาเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะมีหลายรูปแบบตั้งแต่ แบบใส แบบด้าน แบบสะท้อน แบบคาร์บอน หรือแบบเป็นสีต่าง ๆ ดีไซน์ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในการปกป้องสีรถยนต์มากที่สุด โดยปกติจะมีความหนาอยู่ที่ 6-8 มิลล์ฟิล์ม หรือ 180-250 ไมครอน ซึ่งมันจะช่วยป้องกัน เศษดิน ฝุ่น หิน บนท้องถนน ที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดรอยสะเก็ดหินบนตัวรถ

หากมองโดยทั่วไปทุกฟิล์มก็จะใสและมีความหนาที่เป็นจุดเด่น ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ เช่น Self-Healing ฟิล์มรักษาตัวเองได้ หรือ Hydrophobic หรือสารป้องกันคราบน้ำเคลือบบนผิวฟิล์ม ซึ่งก็เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าฟิล์มตัวไหนดี ตัวไหนไม่ดี

เราแนะนำว่าให้คุณมองหาศูนย์บริการติดตั้งฟิล์มกันรอยรถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่ดี มีหลักแหล่ง มีหน้าร้านชัดเจน และต้องแน่ใจว่าศูนย์บริการเหล่านั้นมีการรับประกันเกี่ยวกับ ฟิล์มแตก ลอกล่อน หรือฟิล์มเหลือง ซึ่งการรับประกันฟิล์มส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3-7 ปี และบางศูนย์ก็มีการรับประกันสูงถึง 10 ปี

3. ราคาติดฟิล์มกันรอยรถยนต์

นอกจากคุณภาพของฟิล์มแล้ว ทักษะและความชำนาญของศูนย์บริการก็เป็นส่วนหนึ่งของราคาต้นทุน ทำให้ไม่สามารถระบุราคาติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ที่แน่นอนได้ แต่โดยหลักๆแล้วราคาจะแบ่งตามแพคเกจหรือขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนคุณต้องการจะติดตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น

- ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์บริเวณ กันชนหน้า โคมไฟ กระจกมองข้าง

ราคาเฉลี่ยโดยประมาณจะอยู่ที่ 15,000 – 30,000 บาท

- ฟิล์มกันรอยรถยนต์บริเวณ กันชนหน้า โคมไฟ กระจกมองข้าง และฝากระโปรง

ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 25,000-50,000 บาท

- ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์บริเวณเต็มหน้ารถทั้งหมด

ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 40,000-70,000 บาท

- ราคาติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ทั้งคัน

ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 120,000-130,000 บาท และอาจจะแพงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของชิ้นส่วนรถยนต์ แต่ละคัน

ทำไมราคา ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ ถึงแพง?

ปัจจัยพื้นฐานในการติดตั้งฟิล์มกันรอยคือแบบวิธีในการติดตั้ง ซึ่งหมายถึงช่างจะทำการใช้เครื่องซอฟแวร์คอมพิวเตอร์และเครื่องตัดสติ๊กเกอร์ทำการตัดชิ้นส่วนฟิล์มพื้นฐานสำหรับรถของคุณ ราคาการติดฟิล์มจึงรวมถึงค่าซอร์ฟแวร์ที่ทางศูนย์บริการได้จ่ายเพื่อจะได้แพทเทิร์นของรถยนต์รุ่นนั้น ๆ วิธีนี้จะค่อนข้างเร็วและง่ายในการติดตั้งฟิล์ม แต่ข้อเสียของการติดตั้งวิธีนี้คือ คุณจะเห็นขอบฟิล์มที่เผยออกมาซึ่งคุณจะสามารถมองเห็นสิ่งสกปรกได้ และหากคุณนำรถไปเคลือบแว๊กซ์ก็จะมองเห็นแว๊กซ์ติดอยู่ที่บริเวณขอบ ๆ ฟิล์มโดยเฉพาะหากรถเป็นรถสีขาวก็จะยิ่งเห็นชัด

การตัดฟิล์มกันรอยด้วยมือ การตัดฟิล์มกันรอยด้วยมือนั้นเป็นการติดตั้งสำหรับช่างที่มีความชำนาญสูงเท่านั้น ซึ่งที่เราพูดว่าสำหรับเฉพาะช่างที่มีความชำนาญสูงเท่านั้น ก็เพราะว่ามันมีส่วนโค้งและเว้าอย่างมากบนตัวรถ และอาจจะเกิดความเสี่ยงที่ใบมีดโดนผิวรถทำให้เกิดรอย แต่ที่ยังต้องตัดด้วยมือเพราะว่า มีรถพิเศษ เช่นรถรุ่นเก่าหรือรุ่นพิเศษที่ไม่มีแพทเทิร์นรูปแบบฟิล์มในปัจจุบัน หรือชิ้นส่วนอะไหล่แต่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามานอกเหนือจากที่ออกมาจากโรงงาน

เพราะฉะนั้นการติดตั้งฟิล์มกันรอยที่ดีที่สุดก็คือการนำทั้งสองวิธีมาผสมผสานกัน และสำหรับช่างที่ชำนาญการออกแบบ พวกเขาสามารถที่จะใช้ซอฟแวร์ขึ้นรูปให้เกินกว่าชิ้นส่วนรถและพับมุมเข้าไปด้านในเพื่อเก็บขอบซึ่งมันจะช่วยปกป้องรถได้ครอบคลุมชิ้นส่วนทั้งหมด

เป็นสาเหตุว่าทำไมการติดฟิล์มกันรอยถึงมีราคาค่าการติดตั้งค่อนข้างแพงนอกเหนือจากต้นทุนของวัสดุฟิล์ม

ทั้งนี้ในการเลือกติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ เราอยากให้คุณดูทั้งคุณภาพ มาตรฐาน ฝีมือช่าง ตลอดจนการรับประกันมากกว่าการเปรียบเทียบราคาเพียงอย่างเดียว